วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
ทักษะการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล
การเล่นกีฬาวอลเลย์บอลมีทักษะส่วนบุคคลพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการเล่นหลายประเภท ซึ่งผู้เริ่มเล่นวอลเลย์บอลจำเป็นต้องเริ่มฝึกในพื้นฐานเหล่านี้ สำหรับในตอนนี้จะได้นำเสนอทักษะต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเล่นวอลเลย์บอลในภาพรวมทุกทักษะ เพื่อที่จะได้ทราบว่าแต่ละทักษะมีวิธีการและความสำคัญอย่างไร
รูปแบบทักษะพื้นฐานที่ผู้ฝึกสอนและนักกีฬาจะต้องสนใจมี 7 ประเภท ซึ่งทักษะทั้งหมดจำเป็นต้องใช้ในการแข่งขัน ในการฝึกนอกจากผู้เล่นจะสามารถปฏิบัติทักษะพื้นฐานทั้งหมดได้แล้วยังต้องสามารถเชื่อมโยงการเล่นในแต่ละทักษะได้ด้วย สำหรับการเล่นเป็นทีมนั้นหากผู้เล่นไม่มีความชำนาญในแต่ละทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวกับการเล่นวอลเลย์บอลก็จะทำให้การเล่นเป็นทีมทำได้ยาก
ทักษะส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับการเล่นวอลเลย์บอล
ท่าทางและการเคลื่อนที่ (Postures and movement)
การส่งบอลด้วยมือล่างและมือบน (Pass and Set-up)
การตบ (Spike)
การเสริฟ (Service )
การรับลูกตบและการรองบอล (Attack reception and net recovery)
การรับลูกเสริฟ (Service reception)
การสกัดกั้น (Blocking)
ท่าทางและการเคลื่อนที่ (Postures and movement)
ท่าทาง (Postures)
ลักษณะท่าทางของผู้เล่นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ท่าทางของผู้เล่นในแดนหน้าเมื่อทำการสกัดกั้นและท่าทางเมื่อเป็นผู้เล่นแดนหลังในการรับตบรับเสริฟหรือรับบอลจากคู่ต่อสู้
ลักษณะท่าทางเตรียมเล่นบอลของผู้เล่นเมื่ออยู่แดนหลังมีลักษณะดังนี้
ยืนงอเข่าโดยปลายเท้าอยู่หน้าหัวเข่า
น้ำหนักตัวทิ้งไปที่ปลายเท้า
เท่าทั้ง 2 ข้างห่างกันประมาณ 1 ฟุต
น้ำหนักตัวทิ้งไปด้านหน้าให้มากที่สุด
ยืนเปิดส้นเท้า
แขนทั้ง 2 ข้างอยู่ด้านหน้าลำตัวเพื่อเตรียมตัวรับบอลได้ง่า ยท่าทางการเตรียมรับที่ถูกต้องสำหรับผู้เล่นแดนหลังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ท่าทางที่ถูกต้องจะทำให้ประสิทธิภาพการรับบอลสูงขึ้นด้วย หากเราพิจารณาความเร็วของลูกตบจะทำให้เราเห็นภาพว่าทำไมท่าทางการรับที่ถูกต้องจึงจำเป็นในการเล่นวอลเลย์บอล
ความเร็วของลูกบอลที่เกิดจากการตบ
ทีมชาย 27 เมตร/วินาที หรือ 60.6 ไมล์ต่อชั่วโมง ระยะจากตาข่ายถึงเส้นหลัง 0.333 วินาทีทีมหญิง 18 เมตร/วินาที หรือ 40.3ไมล์ต่อชั่วโมง ระยะจากตาข่ายถึงเส้นหลัง 0.50 วินาที
2 ข้างห่างกันประมาณ 1 ฟุต
น้ำหนักตัวทิ้งไปด้านหน้าให้มากที่สุด
ยืนเปิดส้นเท้า
แขนทั้ง 2 ข้างอยู่ด้านหน้าลำตัวเพื่อเตรียมตัวรับบอลได้ง่าย ท่าทางการเตรียมรับที่ถูกต้องสำหรับผู้เล่นแดนหลังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ท่าทางที่ถูกต้องจะทำให้ประสิทธิภาพการรับบอลสูงขึ้นด้วย หากเราพิจารณาความเร็วของลูกตบจะทำให้เราเห็นภาพว่าทำไมท่าทางการรับที่ถูกต้องจึงจำเป็นในการเล่นวอลเลย์บอล
ความเร็วของลูกบอลที่เกิดจากการตบ
ทีมชาย 27 เมตร/วินาที หรือ 60.6 ไมล์ต่อชั่วโมง ระยะจากตาข่ายถึงเส้นหลัง 0.333 วินาทีทีมหญิง 18 เมตร/วินาที หรือ 40.3ไมล์ต่อชั่วโมง ระยะจากตาข่ายถึงเส้นหลัง 0.50 วินาที
2 ข้างห่างกันประมาณ 1 ฟุต
น้ำหนักตัวทิ้งไปด้านหน้าให้มากที่สุด
ยืนเปิดส้นเท้า
แขนทั้ง 2 ข้างอยู่ด้านหน้าลำตัวเพื่อเตรียมตัวรับบอลได้ง่าย
ความเร็วการเคลื่อนไหวของแขน
จากเข่าถึงไหล่ 0.44 วินาที
จากไหล่ถึงเข่า 0.39 วินาทีไมล์ต่อชั่วโมง ระยะจากตาข่ายถึงเส้นหลัง 0.333 วินาทีทีมหญิง 18 เมตร/วินาที หรือ 40.3ไมล์ต่อชั่วโมง ระยะจากตาข่ายถึงเส้นหลัง 0.50 วินาที
2 ข้างห่างกันประมาณ 1 ฟุต
น้ำหนักตัวทิ้งไปด้านหน้าให้มากที่สุด
ยืนเปิดส้นเท้า
แขนทั้ง 2 ข้างอยู่ด้านหน้าลำตัวเพื่อเตรียมตัวรับบอลได้ง่าย
การเคลื่อนที่ (Movement)
การเคลื่อนที่ในการเล่นวอลเลย์บอลอาจจะแบ่งลักษณะการเคลื่อนที่หลักๆ ได้ 3 ลักษณะคือ การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า การเคลื่อนที่ไปด้านข้าง การเคลื่อนที่ไปด้านหลัง
1.การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า (Forward Movement) เป็นทักษะการเคลื่อนที่ที่ใช้สำหรับเคลื่อนที่ไปเล่นบอลด้านหน้า การเคลื่อนที่ไปด้านหน้าที่เป็นเทคนิคขั้นสูงสำหรับนักกีฬาคือ การพุ่งไปข้างหน้า (Diving) เทคนิคการพุ่งสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ระยะทางที่มากกว่าการเคลื่อนที่ลักษณะอื่นด้วยเวลาที่รวดเร็ว
ระยะทาง 3 เมตร การเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเร็ว (Dash) 1.33 วินาที
ระยะทาง 3 เมตร ใช้การเคลื่อนที่แบบพุ่ง (Dive) ใช้เวลา 1.21 วินาที
ระยะทาง 6 เมตร การเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วใช้เวลา 1.94 วินาที
ระยาทาง 6 เมตร ใช้การเคลื่อนที่แบบพุ่ง (Dive) ใช้เวลา 1.87 วินาที
ระยะทาง 3 เมตร ทแยงมุม 45 องศา
เคลื่อนที่โดยวิธีการก้าวเท้าใช้เวลา 1.51 วินาที
เคลื่อนที่โดยวิธีการก้าวเท้าใช้เวลา 1.42 วินาที
เคลื่อนที่โดยใช้การพุ่งม้วนตัวใช้เวลา 1.30 วินาที
การเคลื่อนที่ไม่ว่าจะด้านซ้ายหรือขวาจะใช้เวลาหลังตัดสินใจ 1.30 วินาที
3.การเคลื่อนที่ไปด้านหลัง (Moving backwards) ลักษณะการเคลื่อนที่อาจจะใช้แบบวิ่งอย่างรวดเร็วแล้วหมุนตัวกลับเพื่อเล่นบอลหรือก้าวเท้าถอยหลัง แต่ไม่ว่าจะใช้การเคลื่อนที่ลักษณะใดก็ตามสิ่งที่สำคัญคือ สายตาจะต้องมองไปที่บอลเสมอ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น